บันทึกครั้งที่
4
เรียน
วัน พฤหัสบดี ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558
การจัดประสบการณ์การเรียนร่วม
อาจารย์ตฤน แจ่มถิ่น
**วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษาทุกคนวาดรูปดอกไม้ โดยอาจารย์มีแบบให้ดู ดอกนั้นก็คือ "ดอกหางนกยูง"
และอาจารย์บอกว่าให้วาดให้เหมือนในรูปที่อาจารย์เอามาให้ดูด้วย ซึ่งในความคิดดิฉันคิดว่ามันยากมากนะที่จะวาดออกมาให้เหมือนได้
นี้คือรูป "ดอกหางนกยูงของดิฉัน"
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ สวยไหมเอ่ย
ร่างด้วยดินสอ
เมื่อลงสีแล้วสวยไหมค่ะ
จากนั้นอาจารย์ก็ให้นักศึกษา เขียนบรรยายเกี่ยวกับรูปดอกไม้ที่ตัวเองวาดมา
เนื้อหาที่เรียนในวันนี้
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
***สิ่งที่ครูควรทำและไม่ควรทำในห้องเรียน
ครูไม่ควรวินิจฉัย
- การวินิจฉัย
คือ การตัดสินใจดูจากอาการไม่ใช่หน้าที่ครูแต่เป็นของแพทย์
- อาการที่แสดงออกมานั้นจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งฉายาให้เด็ก
(มันจะเป็นการตอกย้ำให้เด็กรู้สึกว่าเป็นแบบนั้น)
- จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
- ชื่อจะเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
- เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
- พ่อแม่ของเด็กพิเศษทราบดีว่าลูกของเขานั้นมีปัญหา
- พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
- ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก
- ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรบ้าง
เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
- ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่ช่วยให้เด็กได้พัฒนา
ครูทำอะไรบ้าง
- สังเกตและบันทึกอย่างเป็นระบบ ไม่จำเป็นต้องบันทึกทั้งห้อง
**การสังเกตอย่างมีระบบ ครูอนุบาลทำได้ดีที่สุดเพราะใกล้ชิดกับเด็กมากและได้เป็นเวลานาน
- แบบสังเกต
( 20 ปี ) ใช้แค่บางคนที่น่าจะใช้
การตรวจสอบ พฤติกรรมไหนไม่ได้ขัดขวางการเรียนรู้
และพฤติกรรมไหนที่เด็กทำแต่ครูยังทำอยู่ก็แสดงว่าพฤติกรรมไม่น่าเป็นห่วง
- จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
บันทึกการสังเกต ( เนื้อความนั้นสั้นๆ ตามความเป็นจริง ) เช่น
- การนับ คือ นับจำนวนครั้งของพฤติกรรม กี่ครั้ง / ชม. / ว และ นับเวลา
- บันทึกต่อเนื่อง
- บันทึกไม่ต่อเนื่อง
คำถามท้ายบท
1.
ให้นักเรียนบอกบทบาทหน้าที่ของครูปฐมวัยถึงสิ่งที่ควรปฎิบัติและไม่ควรปฏิบัติต่อเด็กในห้องเรียรวม
ตอบ สิ่่งที่ควรปฏิบัติ คือจดบันทึกพฤติกรรมของเด็กอย่างเป็นระบบ
เพราะครูอนุบาลทำได้ดีที่สุดแล้ว
สิ่งที่ไม่ควรปฎิบัติ คือครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ ครูไม่ควรตั้งฉยาให้กับเด็ก
2.บอกลักษณะการสังเกตเด็กอย่างเป็นระบบว่ามีรูปแบบใดบ้างและแต่ละรูปแบบมีวิธีสังเกตเด็กอย่างไร
ตอบ - แบบสังเกต ใช้มา 20 กว่าปี
- การตรรวจสอบ
- การบันทึกการสังเกต เช่น การนับ
การบันทึกต่อเนื่อง การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้ทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไรและนำมาเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น และสามารถบอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้คือการร้องเพลง ซึ่งอาจารย์ได้หัดให้นักศึกษาร้องเพลง "ฝึกกายบริหาร" และให้ไปหัดร้องมาเป็นการบ้านด้วย
ประเมินการเรียนในวันนี้
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังอาจารย์สอนเป็นอย่างดีและได้มีการจดบันทึกเนื้อหาที่เรียนไว้เพื่อได้นำมาทบทวนได้ในอนาคตและร่วมกันร้องเพลง ทำกิจกรรมวาดรูปในห้องอย่างตั้งใจ
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆ ตั้งใจเรียนกันทุกคน อาจจะมีคุยบ้างโดนอาจารย์ดุบ้าง แต่เมื่ออาจารย์มอบหมายให้ทำกันในห้อง คือการวาดรูปดอกไม้เพื่อนทุกคนก็ได้แสดงฝีมือของตนเองอย่างเต็มที่
ประเมินอาจารย์
อาจารย์วันนี้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย อาจารย์สอนเรื่องการเรียนรวมได้อย่างละเอียดและเข้าใจมากยิ่งขึ้น
มีการสอนที่สนุก มีเทคนิคที่สามารถอธิบายให้นักศึกษาเข้าใจอย่างถ่องแท้ อาจารย์ได้ร้องเพลงโดยมีเครื่องเคาะจังหวะเป็นอุปกรณ์และทำให้เพลงที่ร้องนั้นเพราะยิ่งขึ้น