บันทึกครั้งที่
2
เรียน
วัน พฤหัสบดี ที่ 22 มคกราคม 2558
การจัดประสบการณ์การเรียนร่วม
อาจารย์ตฤน แจ่มถิ่น
*วันนี้ได้มีการเรียนการสอนรวมกับอีกห้องหนึ่งเนื่องจาก
อาจารย์ได้ไปศึกษาดูงานที่เกษมพิทยามา
และการเรียนในวันนี้อาจารย์ได้จัดห้องเรียนเป็นรูปตัว U เพราะนักศึกษาเยอะ
และบางคนไม่มีที่นั่งเลยต้องนั่งเรียนบนพื้นห้อง
*ได้มีการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ
และต่อมาอาจารย์ได้ปั้มใบปั้มแต่วันนี้ดิฉันลืมเอาใบปั้มมา เลยปั้มใส่กระดาษก่อน
*อาจารย์ได้ร้องเพลงนม 2 รอบแล้วให้ร้องพร้อมกัน ละก็ได้ร้องเพลงอาบน้าม
เพลง
นม
นมเป็นอาหารดี มีคุณค่าต่อร่างกาย
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
ยังมีนมถั่วเหลือง ดื่มได้ดีและไม่แพง
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
เพลง อาบน้ำ
อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมั่ว สุขกายสบายใจ
***และอาจารย์ได้ให้การบ้านทุกคนไปฝึกร้องเพลงมาให้ได้
***ต่อมาอาจารย์ได้เข้าสู่เนื้อหาที่เรียน
EAED 3214 หมายความว่า เราจะนำเอาเด็กพิเศษมาเรียนรวมกับห้องเรียนปกติ
**ลักษณะรูปแบบ**
1. การศึกษาทั่วไป
ศึกษาเด็กทั่วไปโดยเกิดขึ้นมาตั้งแต่โบราณ โดยถ้ามีเด็กพิเศษในสมัยนี้ก็จะถูกซุกซ่อนเอาไว้ เพราะอาย
แต่ต่อมารัฐบาลเห็นความสำคัญมากขึ้นจึงมี...
2. การศึกษาพิเศษ
(เด็กพิเศษเรียน) เช่น ตาบอด หูหนวก
ปัญญาอ่อนจะมีมูลนิธิต่างๆ โดยเฉพาะ
เด็กเหล่านี้จึงไม่รู้สึกว่าตนเองแตกแยกไปจากคนอื่นและมักจะไม่คุ้นเคยที่จะไปอยู่ในสังคมภายนอก
3. การศึกษาแบบเรียนร่วม แบ่งเป็น
3.1 ประเภทแบบบางเวลา (บางช่วงของวัน)
- ตอนมีกิจกรรมต่างๆ
เช่น
เคลื่อนไหวและจังหวะ ศิลปะ
- ต้องคัดความเหมาะสมของเด็กแต่ละคนว่าจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมไหน
- วิชาดนตรี เป็นวิชาที่เด็กพิเศษส่วนใหญ่ชอบ รองลงมาคือการเต้น
***อาการที่เด็กสามารถทำได้คือ
อยู่ในช่วงระดับปานกลาง - มาก
4. การศึกษาแบบเรียนรวม
จะรับเด็กพิเศษเข้าตั้งแต่เริ่มต้นของการได้รับการศึกษากับเด็กปกติ
5. Wilson 2007
ได้ยึดปรัชญาของการอยู่ร่วมกันการสอนคือครูและเด็กต้องเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน และจุดเล็กๆ ของสังคมเริ่มที่ห้องเรียน เด็กปกติต้องยอมรับเด็กพิเศษ
เด็กพิเศษก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเด็กปกติ
โดยผู้ปกครองก็จะต้องเข้าใจ
การอยู่ร่วมกัน (Inclusion) จะนำไปสู่ การเรียนรวม (Inclusive ED)
**การศึกษาแบบเรียนรวม ความหมายที่ทุกประเทศใช้กัน คือ
การศึกษาเรียนรวมเป็นการศึกษาสำหรับทุกคน
ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงต้นของการศึกษา (ปฐมวัย)
และต้องจัดให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละบุคคล
เพราะเด็กปฐมวัยมีเซลล์สมองที่กำลังพัฒนาเพิ่มเรื่อย ๆ (0-7 ปี)
ความสำคัญของการเรียนรวม
- สอนได้
- มีสิทธิขีดจำกัดแบ่งแยกมากที่สุด
- สื่อที่เต็มห้องเรียนแต่เด็กไม่ได้เล่น
- ครูสอนเข้าใจไหม
และครูมีการดูแลเด็กที่ทั่วถึงไหม
***หลังจากที่สอนเสร็จอาจารย์ก็ให้นักศึกษาทำใบงานเรื่องที่เรียนในวันนี้ส่งท้ายคาบ
ประเมินการเรียนในวันนี้
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังอาจารย์สอนเป็นอย่างดีและได้มีการจดบันทึกเนื้อหาที่เรียนไว้เพื่อได้นำมาทบทวนได้ในอนาคต
ประเมินเพื่อน
เพื่อนๆ ตั้งใจเรียนกันทุกคน อาจจะมีคุยบ้างโดนอาจารย์ดุบ้าง แต่เมื่ออาจารย์มีคำถามเพื่อนก็สามารถที่จะตอบคำถามได้
ประเมินอาจารย์
อาจารย์วันนี้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย อาจารย์สอนเรื่องการเรียนรวมได้อย่างละเอียดและเข้าใจมากยิ่งขึ้น
มีการสอนที่สนุก มีเทคนิคที่สามารถอธิบายให้นักศึกษาเข้าใจอย่างถ่องแท้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น